หลังทำงานหนักมาร่วม 10 เดือน เข้าปลายปีเมื่ออากาศเริ่มเย็นลง ร่างกายและจิตใจโหยหาบรรยากาศหน้าหนาวของภาคเหนือ
ต้องการสัมผัสไอจากทะเลหมอกที่แสนสดชื่น ชมวิวยอดเขาทอดยาวสุดตา แต่หลายคนต้องติดปัญหาเรื่องเวลา เมื่อไม่ตรงกับวันหยุดยาวหรือไม่สามารถลาพักร้อนจากที่ทำงานได้ วันนี้จึงมาแนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ถวิลหาบรรยากาศของภาคเหนือ แต่อยู่ห่างจากเมืองหลวงในระยะทางไม่เกิน 350 กิโลเมตร สามารถใช้เวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์เดินทางไปสัมผัสบรรยากาศโดยไม่ต้องใช้วันลาเพิ่มหรือง้อวันหยุดยาวอีกต่อไป
1.เขาพะเนินทุ่ง
“เขาพะเนินทุ่ง” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ห่างจากที่ทำการอุทยาน 50 กิโลเมตร เป็นภูเขาสูง มีบริเวณที่เป็นทุ่งหญ้ากว้าง เป็นเขาที่สูงประมาณ 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเล จึงมีความหนาวเย็นตลอดปี ในช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มหมอกสีขาวนวลปกคลุมทั่วหุบเขา พอช่วงสายเริ่มจางลงจะปรากฏภาพป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ เห็นเทือกเขาสลับซับซ้อนไกลสุดตาอยู่ด้านหลัง โดยจุดชมทะเลหมอกมีอยู่ 2 แห่งคือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 และ 36 สำหรับช่วงที่ทะเลหมอกงดงามและมีอากาศเย็นสบายที่สุดคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
2.จุดชมวิวห้วยคอกหมู
“จุดชมวิวห้วยคอกหมู” สุดเขตแดนตะวันตก ตั้งอยู่ที่ ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร เป็นพื้นที่ของฐานปฏิบัติการร้อย ตชด.137 ตั้งอยู่บนภูเขาสูง เป็นพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมา มีแนวสันปันน้ำเบื้องล่างเป็นเขตแดน บนจุดชมวิวห้วยคอกหมูนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูมิประเทศอันสวยงามของเทือกเขาตะนาวศรี เมื่อมองข้ามไปในฝั่งพม่าจะเห็นต้นไม้ใหญ่และป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ ในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาวจะมีทะเลหมอกปกคลุมหนาแน่น และในวันท้องฟ้าโปร่งจุดชมวิวห้วยคอกหมูยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง บรรยากาศดีไม่แพ้ภาคเหนือ
3.เขากระโจม
“เขากระโจม” ห่างจาก อ.สวนผึ้ง ประมาณ 29 กม. สูง 1,045 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาสูงสุดในเทือกเขาตะนาวศรี จุดชมวิวเขากระโจมสามารถมองเห็นทั้งประเทศไทยและประเทศเมียนมา สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจดจำประทับใจคือหนทางที่สมบุกสมบัน ยากลำบาก การขึ้นไปที่เขากระโจมต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น โดยมีระยะทางจากตีนเขาถึงยอดเขา 10 กม. บนเขากระโจมนั้นอากาศดี อุณหภูมิหนาวเย็นทั้งปี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบธรรมชาติป่าเขาและรักการผจญภัย เป็นจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ที่กำลังนิยมมากเพราะใกล้กรุงเทพฯ ในช่วงปลายฝนต้นหนาวเป็นช่วงที่จะเกิดทะเลหมอกมากที่สุด
4.เนินกูดดอย
“เนินกูดดอย” ตั้งอยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์เทือกเขาสลับซับซ้อนสุดตาของ อ.ทองผาภูมิ และยังสามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม) นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ ไฮไลท์อยู่ที่จุดชมวิวบนยอดเขาที่สร้างเป็นระเบียงยื่นออกจากตัวผา เมื่อไปยืนตรงนั้นจะรู้สึกเหมือนลอยล่องอยู่ท่ามกลางทะเลหมอก เห็นวิวทะเลสาบของเขื่อนเขาแหลมไกล ๆ ส่วนตอนกลางคืนสามารถกางเต็นท์ นอนชมทะเลดาวที่สวยงาม อากาศเย็นสบายคล้ายภาคเหนือ
5.เขาช้างเผือก
“เขาช้างเผือก” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เช่นเดียวกัน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,249 เมตร ซึ่งการไปเที่ยวเขาช้างเผือกนั้นจำกัดนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นได้เพียงวันละไม่เกิน 60 คนเท่านั้น เป็นเส้นทางเดินป่าที่ท้าทาย เพราะมีระยะทางถึง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าราว 6 ชั่วโมง โดยต้องพักค้างแรม กางเต็นท์บนยอดเขาหนึ่งคืน ทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับทุ่งหญ้า จุดไฮไลท์การเดินทางอยู่ที่ “สันคมมีด” สันเขาที่สวยงามและน่ากลัวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้ที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวในฝันที่นักท่องท่องเที่ยวต้องการไปเยือนมากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลและดูเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.bangkokbanksme.com/article/10239
